วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

จอร์แดน - อิสราเอล ผจญภัยฟ้าจรดทรายสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เมืองเก่า จัฟฟา Old Jaffa

จอร์แดน - อิสราเอล ผจญภัยฟ้าจรดทรายสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เมืองเก่า จัฟฟา Old Jaffa
ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่าที่เก่าแก่อายุกว่า 3,000 ปี ชื่อเดิมของเมืองคือ Yafo ใน ภาษาฮิบรูแปลว่าสวยงาม ในประวัติศาสตร์เมืองนี้ถูกครอบครองมาหลายยุคหลายสมัย ปัจจุบันรัฐอิสราเอลได้อนุรักษ์เมืองนี้ไว้แล้วอนุญาตให้ศิลปินพักอาศัยทำ งานสร้างสรรค์ และขายผลงานของตนเองแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน และแวะเยี่ยมชม ท่าเรือจัฟฟา ที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก




ประวัติศาสตร์เมืองนี้ถูกครอบครองมาหลายยุคหลายสมัย ปัจจุบันรัฐอิสราเอลได้อนุรักษ์เมืองนี้ไว้แล้วอนุญาตให้ศิลปินพักอาศัยทำ งานสร้างสรรค์ และขายผลงานของตนเองแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน



ท่าเรือจัฟฟา



หอนาฬิกา The Clock Tower ที่ ตั้งอยู่ศูนย์กลางของเมืองจัฟฟา สร้างในปี 1906 สุลต่านอับดุล ฮามิด ที่ 2 บนหอคอยจะมีแผ่นหินสลักเป็นที่ระลึกถึงการต่อสู้ดิ้นร้นเพื่อให้เมืองนี้ใน ปี 1948



หอนาฬิกา The Clock Tower



พิพิธภัณฑ์ประจำชาติ Diaspora Museum ที่แสดงถึงประวัติความเป็นมาของประเทศอันมหัศจรรย์นี้



พิพิธภัณฑ์ประจำชาติ Diaspora Museum



Garden Tomb อุโมงค์ที่สกัดไว้ในศิลาที่ใช้เก็บพระศพของพระเยซูหลังจากเชิญพระศพลงมาจาก กางเขน เป็นอุโมงค์ที่ว่างเปล่า ร่วมพิธีบัพติศมา ระลึกถึงการทรงเป็นพระผู้ไถ่ที่ทรงมีชัยชนะเหนือความตาย



อุโมงค์ที่สกัดไว้ในศิลาที่ใช้เก็บพระศพของพระเยซูหลังจากเชิญพระศพลงมาจาก กางเขน เป็นอุโมงค์ที่ว่างเปล่า

ดูสถานที่ท่องเที่ยวอื่นเพิ่มเติมได้ที่



https://www.facebook.com/planetbluetravel/

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ไอซ์แลนด์ ตามล่าแสงเหนือสุดขอบฟ้า เส้นทางวงแหวนทองคำ หรือ Golden Circle

ไอซ์แลนด์ ตามล่าแสงเหนือสุดขอบฟ้า เส้นทางวงแหวนทองคำ หรือ Golden Circle
ทัศนียภาพของทุ่งหญ้าตัดกับทุ่งลาวามีฝูงแกะ, วัวและม้าไอซ์แลนด์หากินอยู่ตามธรรมชาติ ชมสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติคือ ซิงเควลลิร์ Þingvellir อุทยานแห่งชาติแห่งแรกมรดกโลกขององค์การยูเนสโกเป็นรอยเชื่อมระหว่างทวีปยูเรเซียและทวีปอเมริกาเหนือ สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญในฐานะเป็นสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์ โดยรัฐสภาได้ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 930 และต่อเนื่องมาจนถึง ปี ค.ศ. 1789 ซิงเควลลิร์ (Þingvellir) ตั้งอยู่ตรงรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Þingvallavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส (Reykjanes) และภูเขาไฟเฮนกิลล์ (Hengill) เป็นจุดกำเนิดทางด้านประวัติศาสตร์และทางด้านธรณีวิทยาเพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกเป็นระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร

ดูสถานที่ท่องเที่ยวอื่นเพิ่มเติมได้ที่

https://www.facebook.com/PlanetBlue.Iceland/



Þingvellir อุทยานแห่งชาติแห่งแรก / มรดกโลกขององค์การยูเนสโก ชมทุ่งหญ้าตัดกับทุ่งลาวา มีฝูงแกะ, วัวและม้าไอซ์แลนด์หากินอยู่ตามธรรมชาติ ชมสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติคือ ซิงเควลลิร์



สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญในฐานะเป็นสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์ โดยรัฐสภาได้ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 930 และต่อเนื่องมาจนถึง ปี ค.ศ. 1789 ซิงเควลลิร์ (Þingvellir)



ภูเขาไฟเฮนกิลล์ (Hengill) เป็นจุดกำเนิดทางด้านประวัติศาสตร์และทางด้านธรณีวิทยา เพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลก



เคริด (Kerid Crator) ร่องรอยปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้วมีน้ำท่วมขังจนเป็นทะเลสาบกว้าง



เคริด (Kerid Crator)



น้ำตกกูลฟอสส์ หรือ ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ (Gullfoss) ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศนี้ และยังจัดว่าเป็น 1 ใน 3 ที่ไอซ์แลนด์จัดให้อยู่ในเส้นทาง “วงกลมทองคำ” ที่เมื่อผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ต้องมาท่องเที่ยว



ชื่อน้ำตกแห่ง Gullfoss มาจากคำว่า Gull ที่แปลว่าทองคำและ Foss ที่แปลว่าน้ำตก เมื่อรวมกันหมายถึงน้ำตกทองคำ ถือเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติระดับโลก ที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งและลดระดับลงในโตรกเขาเบื้องล่างที่ความสูงกว่า 30 เมตร



น้ำพุร้อนธรรมชาติเกเซอร์ (Geysir) น้ำพุร้อนหรือเกย์ซีร์ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า กีเซอร์ geyser ที่ใช้กันทั่วโลก น้ำพุร้อนที่นี่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที ไอซ์แลนด์เหมือนพระเจ้าบรรจงสร้างขึ้นมาอย่างประณีต พลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก ขับเคลื่อนออกมาเป็นน้ำพุร้อน ช่วยให้อากาศอบอุ่นเย็นสบาย และรัฐบาลได้แปลงความร้อนให้เป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศ



น้ำพุร้อนธรรมชาติเกเซอร์ (Geysir)


พูดคุยสนทนาการท่องเที่ยวที่



https://www.facebook.com/planetbluetravel

วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558

อู่ไถซาน - เอ่อเหมยซาน - ชิงเฉินซาน จาริก 3 ขุนเขาศักดิ์สิทธิ์แผ่นดินจีน เมืองเฉิงตูChengdu

อู่ไถซาน - เอ่อเหมยซาน - ชิงเฉินซาน จาริก 3 ขุนเขาศักดิ์สิทธิ์แผ่นดินจีน เมืองเฉิงตูChengdu
เป็นเมืองเอกของ มณฑลเสฉวน ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำหมินใจกลางมณฑล ประชากรเมืองเฉิงตูมีราว 10 ล้านคน จัดเป็นอันดับ 3 ของประเทศจีน ในปัจจุบันเป็นทั้งศูนย์กลางด้านการเมือง การทหาร และด้านการศึกษาของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านโบราณหัวหลงซี ที่อยู่ในราชวงศ์หมิง ที่ในอตีตเคยเป็นเมื่องท่าที่สำคัญในการติดต่อซื้อขายที่สำคัญอีกที่หนึ่งของประเทศจีนเลยก็ว่าได้ และยังมี วัดเป่ากวงซื่อ ที่มีรูปปั้นอรหันต์สูง 2 เมตร ถึง 500 องค์ เป็นวัดพุทธที่สำคัญ 1 ใน 4 ทางใต้ของจีนอีกด้วยพิพิธภัณฑ์ Sanxingdui อยู่ห่างจากเมืองเฉิงตูไปทางเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร ครอบคลุมเนื้อที่ของการจัดการแสดงประมาณ 4,000 ตารางเมตร ได้ทำการเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1997 เพื่อเป็นสถานที่ในการเก็บรักษาและแสดงเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมโบราณของเมืองเสฉวน เช่น หยกสีสดใสโบราณ ทัพพีหินหัวนก รูปสำริดศีรษะมนุษย์กับหน้ากากทอง หยกรูปหัวลูกศร ภาชนะเครื่องปั้นดินเผาศูนย์หมีแพนด้า (Panda museum) ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า เฉิงตุ มณฑลเสฉวน ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 600,000 ตารางเมตร ทางตอนเหนือของเมืองเฉิงตู สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1987 ซึ่งใช้เป็นศูนย์เพาะพันธุ์และอนุรักษ์ รวมถึงใช้เป็นสถานที่ศึกษาหมีแพนด้า เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่จะศึกษาระบบนิเวศน์ , การอยู่อาศัยและการแพร่พันธุ์ของหมีแพนด้าเป็นสถานอภิบาลหมีแพนด้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในได้รับการจัดสภาพแวดล้อม กลมกลืนกับป่าธรรมชาติ ทั้งยังเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์หายากของมณฑลเสฉวนอีกด้วย ที่นีมีแพนด้าประมาณ 40 กว่าตัว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ได้ให้ความรู้กับท่านพร้อมทั้งอธิบาย เกี่ยวกับหมีแพนด้า เช่น การเกิด การทำคลอด โรงพยาบาลหมีแพนด้า พิพิธภัณฑ์หมีแพนด้า สถานที่อนุบาลหมีแพนด้า ให้ท่านได้ร่วมสนุกกิจกรรมเกี่ยวกับหมีแพนด้าอีกมาก



หมู่บ้านโบราณ “หัวหลงซี” เป็นหมู่บ้านสมัยราชวงศ์หมิง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหวางหลงซี ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าริมน้ำที่มีเรือสัญจรไปมาคับคั่งการค้าขายคึกคักมากปัจจุบันยังเหลือให้เห็นบรรยากาศเก่า ๆ ได้ทั่วไป เช่น โรงน้ำชา วัดเก่าแก่ ต้นไม้โบราณ และวิถีชีวิตของชาวบ้านที่มักไปจับกลุ่มเล่นไพ่นกกระจอก และดื่มน้ำชาใต้ร่มไม้ริมทางน้ำอาคารบ้านเรือนนิยมสร้างบนเสาไม้ขนาดใหญ่ยื่นลงไปในน้ำ กรอบประตูหน้าต่างแกะสลักลวดลายงดงาม พื้นถนนปูด้วยหินคดเคี้ยวไปมา มีต้นไม้ใหญ่ใบครึ้มอายุกว่า 300 ปียืนให้ร่มเงาอยู่หลายต้น หมู่บ้านนี้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์ย้อนยุคอีกหลายเรื่อง



บริเวณทางเดินเข้า หมู่บ้านโบราณ “หัวหลงซี”



หมู่บ้านโบราณ “หัวหลงซี”



บริเวณสระน้ำที่ตั้งอยู่ภายในของ หมู่บ้านโบราณ “หัวหลงซี”



สะพานที่ตั่้งอยู่ภายใน หมู่บ้านโบราณ “หัวหลงซี”



วัดเป่ากวงซื่อ ซึ่งมีรูปปั้นอรหันต์สูง 2 เมตร ถึง 500 องค์ เป็นวัดพุทธที่สำคัญ 1 ใน 4 ทางใต้ของจีน สร้างในสมัยฮั่นตะวันออก นอกจากนี้ยังมีเจดีย์สมัยราชวงศ์ถังที่บรรจุพระธาตุสูง 30 เมตร ที่เฉิงตู ในสมัยราชวงศ์ถัง ใน ค.ศ. 881 ทั้งนี้เพราะพระบรมสารีริกธาตุที่อยู่ในวัด ได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ด้วยการเปล่งรังสี เป็นรัศมีสว่างเจิดจ้าขึ้นในวัด ทางวัดจึงได้ทำการค้นหา และได้พบตลับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 13 องค์ เป็นตลับแกะสลักด้วยหินจึงสร้างเจดีย์ 13 ชั้นขึ้นเพื่อประดิษฐาน



พิพิธภัณฑ์ Sanxingdui อยู่ห่างจากเมืองเฉิงตูไปทางเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร ครอบคลุมเนื้อที่ของการจัดการแสดงประมาณ 4,000 ตารางเมตร ได้ทำการเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1997 เพื่อเป็นสถานที่ในการเก็บรักษาและแสดงเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมโบราณของเมืองเสฉวน เช่น หยกสีสดใสโบราณ ทัพพีหินหัวนก รูปสำริดศีรษะมนุษย์กับหน้ากากทอง หยกรูปหัวลูกศร ภาชนะเครื่องปั้นดินเผา



พิพิธภัณฑ์ Sanxingdui ภายในจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมโบราณของเมืองเสฉวน เช่น หยกสีสดใสโบราณ ทัพพีหินหัวนก รูปสำริดศีรษะมนุษย์กับหน้ากากทอง หยกรูปหัวลูกศร ภาชนะเครื่องปั้นดินเผา



รูปสำริดศีรษะมนุษย์กับหน้ากากที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์ Sanxingdui



รูปสำริดศีรษะมนุษย์กับหน้ากากที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์ Sanxingdui



รูปสำริดศีรษะมนุษย์กับหน้ากากหลากหลายรูปแบบที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์ Sanxingdui



ศูนย์หมีแพนด้า (Panda museum)ซึ่งใช้เป็นศูนย์เพาะพันธุ์และอนุรักษ์ รวมถึงใช้เป็นสถานที่ศึกษาหมีแพนด้า เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่จะศึกษาระบบนิเวศน์ , การอยู่อาศัยและการแพร่พันธุ์ของหมีแพนด้าเป็นสถานอภิบาลหมีแพนด้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในได้รับการจัดสภาพแวดล้อม กลมกลืนกับป่าธรรมชาติ ทั้งยังเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์หายากของมณฑลเสฉวนอีกด้วย



ศูนย์หมีแพนด้า (Panda museum)



ลูกแพนด้าที่อยู่ภายในศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า (Panda museum)



ลูกแพนด้าที่อยู่ภายในศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า (Panda museum)



การแสดงโชว์เปลี่ยนหน้ากาก เป็นการโชว์ที่ผู้แสดงสะบัดหน้าเพียงครั้งเดียวก็สามารถเปลี่ยนหน้าได้เพียงเสี้ยววินาที เป็นศิลปะของคนจีนตั้งแต่สมัยโบราณ ในอดีตเทคนิคการแสดงจะถูกปิดเป็นความลับและจะถ่ายทอดเฉพาะคนในตระกูลเท่านั้น โชว์เปลี่ยนหน้ากาก เป็นศิลปะการแสดงงิ้วของเสฉวน เป็นไฮไลท์ของเมืองเฉิงตูและเป็นวิธีการเปลี่ยนหน้ากาก ด้วยการดึงเชือกอย่างแนบเนียน จากหน้ากากที่ซ้อนกันอยู่หลายๆหน้า หรือสะบัดหน้ากาก แค่เสี้ยววินาที

พูดคุยสนทนาการท่องเที่ยวที่



https://www.facebook.com/planetbluetravel

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เกาหลีใต้ ในสายลมหนาว เกาะเชจู Jeju Island

เกาหลีใต้ ในสายลมหนาว เกาะเชจู Jeju Island
จุดแรกที่สัมผัสเกาะเชจู Jeju Island หรือ เชจู-โด ในภาษาเกาหลี เป็นหนึ่งในเก้าจังหวัดของเกาหลีใต้ ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในชื่อ "เกาะเชจูและถ้ำลาวา" เมื่อปี 2550 เนื่องจากเป็นตัวแทนในวิวัฒนาการสำคัญต่างๆ ในอดีตของโลก และเป็นตัวแทนของขบวนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางธรณีวิทยา หรือวิวัฒนาการทางชีววิทยา และปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่กำลังเกิดอยู่ชื่อ “เชจู” ในภาษาเกาหลีมีความหมายว่า “เกาะแห่งองค์สาม” กล่าวคือเป็นที่รมของส่วนประกอบ 3 ประการ คือ หิน ลม และผู้หญิง ส่วนประกอบ 3 ประการนี้มีความหมายว่า “ลม” บนเกาะเชจูจะโบกพัดตลอดทั้งปี ในขณะที่ “ผู้หญิง” มีที่มาจากอดีตเมื่อนานมาแล้วที่ชาวเกาะเชจูเดิมยึดอาชีพทำการประมงเป็นหลัก ผู้ชายจะมีหน้าที่ออกเรือหาปลาในทะเล ผู้หญิงก็จะรออยู่บนเกาะพร้อมกับรับหน้าที่เป็นแม่บ้านดูแลลูกและเตรียมอาหารไว้รอดสามี แต่เพราะคลื่นลมทะเลที่ผันผวนรุนแรงทำให้ผู้ชายส่วใหญ่ถูกพายุพัดพาจมหายไปพร้อมกับเรืออยู่เสมอ เกาะแห่งนี้จึงเหลือประชากรที่เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอย่างเห็นได้ชัดในอดีตเกาะเชจูเคยเป็นสถานที่ที่ใช้เนรเทศนักโทษทางการเมือง หรือนักโทษหนักๆ ถ้ายังจำกันได้ ในเรื่องแดจังกึม ก็มีฉากที่นางเอกของเรื่องต้องโทษถูกเนรเทศมายังเกาะเชจูด้วยเหมือนกัน ในคริสต์ศตวรรษที่ 13 เกาะเชจูตกอยู่ในการยึดครองของชาวมองโกล ซึ่งกินเวลานานนับร้อยปี ทำให้วิถีชีวิตของชาวเกาะเชจูได้รับอิทธิพลจากมองโกลเป็นอย่างมาก



เกาะเชจูเดิมยึดอาชีพทำการประมงเป็นหลัก ผู้ชายจะมีหน้าที่ออกเรือหาปลาในทะเล ผู้หญิงก็จะรออยู่บนเกาะพร้อมกับรับหน้าที่เป็นแม่บ้านดูแลลูกและเตรียมอาหารไว้รอดสามี แต่เพราะคลื่นลมทะเลที่ผันผวนรุนแรงทำให้ผู้ชายส่วใหญ่ถูกพายุพัดพาจมหายไปพร้อมกับเรืออยู่เสมอ เกาะแห่งนี้จึงเหลือประชากรที่เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด



ในอดีตเกาะเชจูเคยเป็นสถานที่ที่ใช้เนรเทศนักโทษทางการเมือง หรือนักโทษหนักๆ ถ้ายังจำกันได้ ในเรื่องแดจังกึม ก็มีฉากที่นางเอกของเรื่องต้องโทษถูกเนรเทศมายังเกาะเชจูด้วยเหมือนกัน



เกาะเชจู jeju



หินปู่ ทอลฮารุบัง” Dolharubang การที่เกาะเชจูนั้นเคยเป็นภูเขาไฟมาก่อน ทำให้มีหินภูเขาไฟหรือหินลาวาอยุ่มากมายทั่วทั้งเกาะ และหินลาวาเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะเชจู



“ทอลฮารุบัง” Dolharubang หรือ “หินปู่” ซึ่งเป็นการแกะสลักหินลาวาภูเขาไฟให้เป็นรูปคนแก่ใจดีที่ชาวเชจูโบราณเชื่อว่าจะช่วงคุ้มครองคุ้มภัยให้กับสถานที่แห่งนี้ และเชื่อกันว่า หากใครได้ลูบท้องของทอลฮาลุบังก็จะร่ำรวยและมีโฃคลาภ หรือหากคู่แต่งงานพากันมาลูบหูทอลฮารุบังก็จะได้ลูกผู้หญิง หากลูบจมูกก็จะได้ลูกชาย



ใครที่มาเที่ยวเกาะเชจู เราก็จะเห็นมาลูบทอลฮารุบังกันใหญ่ ส่วนจะลูบจุดใดก็ต้องแล้วแต่วัตถุประสงค์ส่วนตัว และทอลฮารุบังถูกแกะสลักให้มีขนาดแตกต่างกันไปตั้งแต่เล็กเพียงแค่ 1 นิ้วไปจนถึงขนาดใหญ่เบ้อเริ่มก็มีอยู่มาก ปัจจุบันทอลฮารุบังก็กลายมาเป็นคู่ถ่ายภาพของนักท่องเที่ยวไปจนหมด



โขดหินยงดูอัม Yongduam Rock หินที่มีรูปทรงแปลกประหลาดคล้ายกับหัวมังกรรที่เกิดจากหินถูกกัดกร่อนโดยคลื่นลมทะเลมายาวนาน



ตำนานที่เล่าขานกันมายาวนานบนเกาะเชจูแห่งนี้เล่าว่า ครั้งหนึ่งราชาแห่งมงกรได้สั่งให้องค์รักษ์ออกเสาะหายาอายุวัฒนะบนภูเขาฮัลลา



หินรูปมังกรที่มีส่วนหัวชูขึ้นสู่สวรรค์และส่วนของลำตัวจมอยู่ใต้ทะเล

พูดคุยสนทนาการท่องเที่ยวที่

https://www.facebook.com/planetbluetravel


ดูหนังออนไลน์ - Powered by Discuz!

ดูหนังออนไลน์ - Powered by Discuz!